ผ่านการฝึกทักษะการจัดการเวลาค่ะ หลายๆคนอาจจะคิดว่าการลดน้ำหนักคือเรื่องของการกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ การออกกำลังกายที่ถูกต้อง ไม่ใช่หรอ เกี่ยวอะไรกับการจัดการเวลา?

ถ้าทุกคนรู้หมดว่าต้องทำยังไงเราถึงจะสามารถลดน้ำหนักได้ ข้อมูลก็มีอยู่เต็มอินเตอร์เน็ต

แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมเราถึงยังลดน้ำหนักกันไม่ได้ล่ะ??

กิ๊กจะบอกว่า ทุกอย่างคือเรื่องของ mindset ค่ะ

อย่างของกิ๊กนี่ที่เห็นชัดๆเลยคือหลังจากที่กิ๊กจัดการตารางเวลาได้ดี น้ำหนักกิ๊กลดไป 10 กว่าโล ถามว่า ทำไมมันทำได้ มันเกี่ยวอะไรกัน??

เอาง่ายๆเลยคือพอเราได้มานั่งจัดการตารางเวลาให้กับเรื่องที่เราตั้งใจว่าจะใส่ใจมัน มันก็จะได้รับการใส่ใจค่ะทุกคน

บางคนบอกว่าจะลดน้ำหนัก แต่ไม่ลงตารางเวลา เลยไม่มีวินัยในการออกกำลังกาย ไม่มีวินัยในการกิน มันก็อ้วนเหมือนเดิม

คือมันเมคเซนส์มากๆ เพราะฉะนั้นพอเรามีทักษะในการจัดการตารางเวลาเรื่องอื่นๆมันก้จะตามมาโดยอัตโนมัติทันที

หรืออย่างสมมติ เรื่องเงิน แค่คุณลงตารางจ่ายบัตรเครดิต แล้วคุณก็ทำตามนั้น จ่ายตรงเวลาทุกเดือนไม่มีหลุด คุณคิดว่าคนแบบนี้จะมีโอกาสสร้างอิสรภาพทางการเงินได้มั๊ยคะ?

ลองดูนะคะ ถ้าอยากฝึกวินัย เริ่มจากการจัดการตารางเวลา แล้ววินัยด้านอื่นๆก็จะเริ่มตามมาเองค่า 

หากคุณต้องการเปลี่ยนชีวิตผ่านการจัดการเวลา
คอร์ส 10X PRODUCTIVITY ช่วยคุณได้ค่ะ ^^

The post ทำไมทักษะการจัดการเวลาถึงสร้างผลลัพธ์ด้านอื่นๆ appeared first on THE EMPEROR.

จริงๆแล้วคนแรกไม่ได้มีพลังวิเศษในการสร้างเวลาเพิ่ม หรืออะไรเลย แต่มันคือเรื่องของ พลังงาน ค่ะ

คุณมีเวลาเพิ่มขึ้นไม่ได้ แต่คุณสามารถสร้างพลังในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ และพลังที่ว่านั่นคือ DEEP WORK นั่นเองค่ะ

DEEP WORK คือสเตจที่เรามีสมาธิระดับสูงในการทำงาน แบบว่าเวลาที่ทำๆอะไรอยู่แล้วมันกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังโฟลวเลย ใครมาชวนทำอะไรก็ไม่ไป นั่นแหละค่ะคือสภาวะ DEEP WORK ซึ่งเรื่องนี้ต้องฝึกฝนค่ะ เหมือนการฝึกสมาธิเลย ยิ่งฝึกบ่อย สภาวะ DEEP WORK ก็จะยิ่งเกิดขึ้นได้ไว

กิ๊กเลยจะมาแชร์ 3 วิธี ที่ทำให้เราเกิดสภาวะ DEEP WORK ได้ง่ายขึ้นค่ะ

10x productivity

1. SECOND BRAIN

second brain ช่วยให้เกิดสภาวะ deep work ได้ยังไง?

สำหรับกิ๊กนะคะ เวลาที่เราทำงานจนเกิดภาวะ deep work บางทีมันจะมีสถานกาณ์หลายๆอย่าง มาขัดจังหวะเรา ให้หลุด แล้วจังหวะหลุดอะมันเอากลับมายาก

ซึ่งสถานการณ์ที่ว่าเนี่ยกิ๊กจะแบ่งเป็นภายนอกกับภายใน สถานการณ์ภายนอกก็อย่างเช่น คนมาขัดจังหวะ ถามงาน เพื่อนชวนกินขนม โนติเด้ง อันนี้เราควบคุมได้ใช่มั๊ยคะเช่นก็บอกเพื่อนว่ายุ่งอยู่ หรือเปิด airplane mode โนติก็ไม่เด้งแล้ว

แต่หลายๆครั้งมันจะมีสถานการณ์ภายใน อันนี้แหละค่ะที่ควบคุมไม่ได้ แล้วอยู่ๆมันจะชอบโผล่ขึ้นมาเอง เช่น นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้พาลูกไปฉีดวัคซีน ยังไม่ลงตารางนัดลูกค้าเอ บี อันนี้คือเสียงในหัวที่มันคอยก่อกวนเราค่ะ เราถึงต้องมี second brain ไว้เป็นที่ dump เสียงในหัวของเรา แบบกองไว้ตรงนั้นก่อน ค่อยมาเคลียร์อีกที แต่เราก็จะสบายใจแล้วทำงานต่อได้ว่ามันจะอยู่ใน second brain นั่นแหละ ไม่หลุดแน่นอน นี่คือเหตุผลที่เราต้องมี second brain ค่ะ

2. TIME BLOCKING

การทำ TIME BLOCKING คือการ SET ตารางเวลา ว่าทั้งวันเราจะทำงานไหน เวลาไหนบ้าง มีการจัดล็อคเวลา (คล้ายๆตารางเรียน)

แล้วทำไม การทำ time blocking ถึงสร้างสภาวะ deep work ได้? เพราะ time blocking จะเซตงานให้อยู่ในรูปแบบของเวลา มีกำหนดการเริ่มงาน และจบงานที่ชัดเจน ทำให้เวลาๆหนึ่งเราก็จะดูแค่งานๆเดียว ทำให้เราเกิด FOCUS หรือ deep work ได้ไวมากยิ่งขึ้นค่ะ

3. POMODORO

POMODORO คือเทคนิคการบริหารเวลาโดยการจับเวลา 25 นาที พัก 5 นาที ทำติดกัน 4 รอบ พัก 15-30 นาที

จริงๆแล้วเรื่องการทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที มีงานวิจัยรับรองว่าทำให้เกิด PRODUCTIVITY ในการทำงานได้สูงกว่าคนที่ทำงานตลอดเวลา ไม่มีพักเลยค่ะ

แต่สำหรับกิ๊กเวลาที่กิ๊กหมุนนาฬิกา POMODORO แล้วมันมีเสียงนาฬิกาจับเวลาดังอยู่ข้างๆเวลาทำงาน มันจะคอยเตือนสติกิ๊กให้กิ๊กไม่ว่อกแว่กไปทำอย่างอื่น ที่ไม่ใช่งานที่กิ๊กทำอยู่ตอนนั้น การทำ POMODORO เลยช่วยให้กิ๊กเกิด FOCUS ในการทำงานได้ง่ายขึ้นค่ะ

ลองนำไปฝึกใช้ดูนะคะ ^^

หากคุณต้องการเปลี่ยนชีวิตผ่านการจัดการเวลา
คอร์ส 10X PRODUCTIVITY ช่วยคุณได้ค่ะ ^^

The post 3 เทคนิคสร้าง Deep Work appeared first on THE EMPEROR.